
เทคนิคดีๆ
การดูแลรักษามอเตอร์ช่วยยืดอายุการใช้งาน
ก่อนการใช้งานมอเตอร์ควรทำการตรวจเช็คสิ่งต่างๆเหล่านี้



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
1.ตรวจเช็คพื้นที่

ไม่ว่าเราจะทำการวางหรือติดตั้งมอเตอร์ สิ่งที่ไม่ควรลืมเช็คเลย คือการตรวจสอบว่ามีความชื้นหรือมีน้ำหรือไม่
และสิ่งที่ต้องตระหนักอยู่เสมอก็คือ ความชื้นและน้ำต้องอยู่ห่างจากตัวมอเตอร์ ซึ่งตัวมอเตอร์อาจจะมีฐานรองเป็นเหล็ก
พื้นที่ติดตั้งจึงจำเป็นต้องห่างไกลจากความชื้นและน้ำ เพื่อที่จะช่วยลดการเกิดสนิมให้ช้าลง
รวมไปถึงลดการสั่นสะเทือนของตัวมอเตอร์ ขั้วต่อไฟฟ้าก็จะแน่นอยู่เสมอ
2.ตรวจเช็คความสะอาดของมอเตอร์

ตรวจดูว่าใบพัดมอเตอร์หรือส่วนประกอบต่างๆของตัวเครื่องมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเกาะติดอยู่หรือไม่ หากมีควรทำความสะอาดให้เรียบร้อยก่อน
การใช้งาน เพื่อช่วยให้มอเตอร์ระบายความร้อนได้ดี เพราะถ้าตัวมอเตอร์ร้อนจะทำให้กินไฟมาก เปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ
ที่สำคัญค่าไฟก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
3.ตรวจเช็คความแน่นของขั้วไฟฟ้า

ว่ามีความแน่นเพียงพอหรือไม่ หากขั้วไฟฟ้าหลวมไม่แน่นพอเมื่อใช้งานไปจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ที่จุดต่อ
ซึ่งแรงดันไฟฟ้าที่ตกคร่อมในจุดต่อที่หลวม จะทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานที่ระดับแรงดันต่ำกว่าพิกัด ส่งผลให้เกิดความร้อนในตัวมอเตอร์
ยิ่งไปกว่านี้ หากจุดต่อเกิดการแตกหักและหลวม จนทำให้เฟสของแรงดันไม่ครบ อาจมีผลทำให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสียหายได้เกือบจะทันที
4.ตรวจเช็คขดลวดมอเตอร์

โดยตรวจเช็คฉนวนที่เคลือบอยู่และทำการเคลือบฉนวนซ้ำ เพื่อลดต้นทุนในการเปลี่ยนขดลวดมอเตอร์ใหม่
ซึ่งมีต้นทุนสูงมากกว่าการเคลือบฉนวนซ้ำ อย่าลืมหมั่นตรวจเช็คอยู่สม่ำเสมอ
5.ตรวจเช็คตลับลูกปืน

โดยทำการเปลี่ยนจาระบีเพื่อช่วยให้การหล่อลื่นดีขึ้น ซึ่งสามารถช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดกับเพลาของมอเตอร์และชิ้นส่วนอื่นๆ
ได้เป็นอย่างมาก หากเราหมั่นดูแลรักษามอเตอร์อยู่สม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยทีเดียว
และไม่ทำให้งานต้องหยุดชะงักในกรณีที่มอเตอร์เสียและต้องทำการเปลี่ยนมอเตอร์ใหม่อีกด้วย
📌 สอบถามเพิ่มเติมที่::
📲 Line OA : @premiumpr หรือ https://lin.ee/3rDO9VSSV
📞 Tel : (02) 919-8900
🌏 WEBSITE :https://www.premium.co.th
⏰ เวลาทำงาน : จันทร์-เสาร์ เวลา 08:30-17:30